เด็กชายชาวจีนวัย 11 ปี พยายามหาเงินตั้งแต่ 6 ขวบเพื่อมารักษาพ่อที่ป่วยด้วยการไปขอทานนานเป็นปี แต่สุดท้ายกลับถูกพ่อชิ่งเงินหนีไปกับภรรยาใหม่ ทิ้งลูกชายไว้ให้เผชิญชะตากรรมตามลำพัง
เรื่องราวสุดสะเทือนใจของเด็กชายชาวจีนยอดกตัญญูวัย 11 ปีรายนี้ ถูกเปิดเผยโดย เว็บไซต์เดลี่เมล (วันที่ 17 สิงหาคม 2558) ระบุว่า เมื่อตอนเป็นเด็กน้อยอายุได้เพียง 3 ขวบ เด็กชายหวาง เหม็งห่าว ถูกแม่ของเขาทิ้งไปให้อยู่ในกระท่อมหลังเก่าซอมซ่อกับพ่อแค่สองคน ซ้ำร้ายหลังจากนั้นพ่อของเขาเกิดประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนไม่สามารถทำงานได้ เขาจึงตัดสินใจหาเงินมาช่วยเยียวยารักษาพ่อ
เด็กชายหวาง ขณะนั้นวัยเพียง 6 ขวบ ออกไปนั่งคุกเข่าขอทานอยู่ที่ริมถนนใกล้กับสถานีรถไฟในเมืองเจิ้งโจว ใจกลางเมืองประเทศจีน เขานั่งขอทานอยู่ที่นั่นนานเป็นปี จนมีผู้สื่อข่าวท้องถิ่นไปพบเข้าและถ่ายวิดีโอเผยแพร่ชีวิตน่าสงสารของเขา โดยเด็กชายหวางบอกกับทีมผู้สื่อข่าวว่า เขาต้องห้ามกินเนื้อ เพราะถ้าเขากินเนื้อเขาจะอ้วนและไม่มีคนสงสารให้เงินเขา
หลังจากเรื่องราวของเด็กชายหวางถูกแพร่ออกไป ชาวเมืองจีนจำนวนมากต่างเห็นอกเห็นใจร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือ พร้อมทั้งยังมีอาสาสมัครบางส่วนเข้าไปช่วยซ่อมแซมหลังคาบ้านที่รั่วซึมให้ นอกจากนี้ยังมีผู้ใจดีสนับสนุนเงินช่วยเหลือให้เขาเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาเหมือนเช่นเด็กคนอื่น ๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องออกไปขอทานอีกแล้ว
ทว่าหลังจากนั้นผ่านไปเมื่อผู้สื่อข่าวกลับไปเยี่ยมเด็กชายหวางที่บ้าน กลับต้องตกใจมากเมื่อพบเขาอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่งและไม่มีวี่แววของผู้เป็นพ่ออยู่ด้วย จึงเข้าสอบถามและได้ความว่า หลังจากที่เด็กชายหวางเปิดรับบริจาคได้เงินมาจำนวนมาก วันหนึ่งพ่อของเขาพาเขาไปเล่นและหลอกว่าจะซื้อขนมและของเล่นมาให้ แต่กลับหนีไปพร้อมกับเงินที่เด็กชายได้รับบริจาคมา หลังจากนั้นพ่อก็กลับมาพร้อมกับภรรยาใหม่แต่อยู่ไม่นานก็หนีไปอีก ทิ้งเขาให้อยู่เพีงลำพังกับคุณปู่วัยชรา
เด็กชายหวางสุดเสียใจกล่าวพร้อมน้ำตาว่า “พ่อเป็นมาเฟีย พ่อขโมยเงินและชีวิตผมไป ผมหวังว่าจะได้เข้าเรียนแต่ก็ไม่มีโอกาส มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในช่วงวัยเด็กและผมจะจดจำมันไปตลอดชีวิต”
EmoticonEmoticon
Note: Only a member of this blog may post a comment.