ตำรวจรวบหนุ่มติดเชื้อเอชไอวี ปล้นจี้ทรัพย์สาวเชียงใหม่ สารภาพทำเพราะหาเงินเลี้ยงเมีย พบประวัติเพิ่งปล้นข่มขืนสาวหลายราย แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธ เร่งตามล่าอีกคนที่ยังหลบหนี
เมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงการจับกุม นายสมสุข อายุ 33 ปี ชาว อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีดโดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจร พร้อมด้วยของกลางสร้อยคอทองคำ หนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น พร้อมพระเลี่ยมทองคำ อาวุธมีด จำนวน 4 เล่ม และ รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ สีขาวครีม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก นางอรุณี ผู้เสียหายว่า มีคนร้าย 2 คน เข้ามาก่อเหตุปล้นชิงทรัพย์ บริเวณช่วยรอยต่อระหว่างหมู่บ้านทุ่งป่าคา-บ้านดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ คนร้ายได้สร้อยคอทองคำ 1 เส้น โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินสด 1,200 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมกับตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดตามโครงการ Police Eye กระทั่งทราบตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายสมสุข โดยสามารถจับกุมตัว พร้อมของกลาง ได้ในพื้นที่ ม.2 ต.สง่าบ้าน อ.ดอยสะเก็ด ส่วนผู้ต้องหาอีกรายคือ นายอุทัย อายุ 18 ปี ชาว จ.ลพบุรี ยังหลบหนีการจับกุม
จากการสอบสวน นายสมสุข สารภาพว่าได้ร่วมกันลงมือก่อเหตุจริง โดยไม่เลือกเหยื่อว่าเป็นเพศใด หากมีโอกาสที่เหมาะสมก็จะลงมือก่อเหตุทันที โดยจะใช้มีดพกข่มขู่เหยื่อและทำการชิงทรัพย์ โดยอ้างว่าที่ลงมือก่อเหตุเนื่องจากไม่มีงานทำ เพิ่งออกจากคุกมาประมาณ 2 เดือน ในคดีชิงทรัพย์
นายสมสุข ยังอ้างว่า ต้องการหาเงินมาเลี้ยงดูแลภรรยา จึงจำเป็นต้องลงมือก่อเหตุ พร้อมทั้งสารภาพว่า ตนเองติดเชื้อเอชไอวีมาประมาณ 10 ปี และยังคงขายบริการทางเพศให้กับผู้ที่ซื้อบริการ โดยจะได้รับค่าบริการ ครั้งละ 500 บาทต่อคน
ทั้งนี้จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ทราบว่าเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายและร่วมกันชิงทรัพย์อีกหลายรายการใน พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นายสมสุข อ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือ ข่มขืนแต่อย่างใด นายอุทัย เป็นผู้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัว นายอุทัย มาดำเนินคดี และควบคุมตัว นายสมสุข ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เครดิต : innnews
EmoticonEmoticon
Note: Only a member of this blog may post a comment.