ฮือฮา.! พ่อเมือง.นคร พิสูจน์เหล็กไหล จากการเข้าร่วมพิธีตัดเหล็กไหล โดยใช้ค้อนทุบ หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น.?

5:01 AM

มื่อ วันที่ 14 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.นครศรีธรรมราช ได้นำวัตถุที่อ้างว่าเป็น “เหล็กไหล” และรัตนชาติ-รัตนธาตุอื่นๆ รวม 4 ชิ้น มาทำการตรวจพิสูจน์ โดยระบุว่าเหล็กไหลนี้ได้มาจากการเข้าร่วมพิธีตัดเหล็กไหลที่ถ้ำแห่งหนึ่งใน อ.ดอนสัก จ.สุราษฏร์ธานี จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าชิ้นแรกเป็นแท่งเหล็กสีเทา รูปร่างคล้ายแคปซูลยา ยาวประมาณ 2 ซม. ชิ้นที่ 2 เป็นแท่งเหล็กขนาดเล็กเท่าเม็ดข้าวเปลือก ปลายทั้งสองข้างแหลม ยาวประมาณ 1 ซม. ชิ้นที่ 3 เป็นแท่งเหล็กหรือตะกั่วขนาดเท่านิ้วชี้ ยาวเกือบ 1 คืบ และชิ้นที่ 4 เป็นอัญมณีสีส้ม ขนาดเท่านิ้วก้อย ยาวประมาณ 1 ซม. ซึ่งชิ้นสุดท้ายนี้ผู้ที่นำมามอบให้อ้างว่าเป็นรัตนชาติ อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า โดย นายพีระศักดิ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีคนหลายคนนำวัตถุเหล่านี้มาให้ บอกว่าเป็นเหล็กไหลและรัตนชาติ ส่วนตัวแล้วตนไม่เชื่อ แต่ก็รับไว้เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ จนเมื่อไม่นานมานี่เองได้มีเพื่อนที่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และอดีตข้าราชการระดับอธิบดี มาชักชวนไปร่วมพิธีตัดเหล็กไหล ซึ่งเป็นพิธีทางไสยศาสตร์โบราณภายในถ้ำแห่งหนึ่งใน อ.ดอนสัก จ.สุราษฏร์ธานี ตนจึงไปร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย
VVVNDX_etZb7Q
ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า สำหรับพิธีหมอไสยศาสตร์จะเริ่มนั่งบริกรรมคาถาเรียกและตัดเหล็กไหลอยู่ นานกว่าครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็มีวัตถุไหลย้อยออกมาจากผนังถ้ำ ก่อนจะตกลงมาในผ้าขาวที่มีการขึงไว้รองเหล็กไหลจำนวนมาก สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่ร่วมอยู่ในพิธี แต่ทั้งนี้ตนรู้สึกเฉยๆ และพยายามสอดส่ายหาที่มาของวัตถุดังกล่าวว่าไหลออกจากจากผนังถ้ำได้อย่างไร แต่สังเกตได้ค่อนข้างยากเพราะภายในถ้ำที่ประกอบพิธีค่อนข้างมืด หลังจากเสร็จสิ้นพิธี ทางหมอไสยศาสตร์ก็จะรวบรวมวัตถุทั้งหมดห่อผ้าขาว แล้วนำออกมาแจกให้กับผู้ร่วมพิธีคนละ 1-2 ชิ้น ซึ่งตนได้รับมาด้วย 1 ชิ้น เป็นแท่งยาวเกือบ 1 คืบ อย่างไรก็ตามตนไม่ได้ลบหลู่เหล็กไหลหรือรัตนชาติว่าไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มีคนนำมาฝากตน และที่ตนได้มาจากการร่วมในพิธีตัดเหล็กไหลนั้น ตนไม่เชื่อว่าเป็นเหล็กไหลจริงๆ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นอะไรกันแน่ วันนี้จึงอยากพิสูจน์ให้รู้ว่าคืออะไร
จากนั้นจึงได้เริ่มทำการพิสูจน์วัตถุทั้ง 4 ชิ้นด้วยการใช้ค้อนทุบ ปรากฏว่าค้อนสามารถทุบแตกได้ ซึ่งสรุปว่าชิ้นแรกที่อ้างว่าเป็นเหล็กไหล เป็นแค่แก้วหรือปรอทที่เกิดจากกระบวนการเป่าแก้ว ส่วนชิ้นที่ 2 และ 3 เป็นตะกั่ว และชิ้นที่ 4 เป็นแก้วจากการเป่าแก้วเช่นกัน ทั้งหมดไม่ได้เป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่าตามที่มีการกล่าวอ้างกันแต่อย่างใด ซึ่ง นายพีระศักดิ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ปัจจุบันยังมีกระบวนการหลอกลวงเรื่องการเรียกและตัดเหล็กไหลอยู่ในสังคมไทย และที่น่าตกใจคือมีข้าราชการ หรืออดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลงเชื่อด้วย จึงทำการพิสูจน์ให้เห็น เพื่อให้ประชาชนทั่วไปจะได้หูตาสว่างเสียที และจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งต้มตุ๋น

Share this

ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ

Previous
Next Post »

EmoticonEmoticon

Note: Only a member of this blog may post a comment.