ครูสาวสอนอยู่โรงเรียนในพื้นที่ชายแดน จ.ศรีสะเกษ ถูกพบเป็นศพผูกคอตายในห้องนอนบ้านตัวเอง สภาพนั่งก้มหน้าบนพื้น เผยผู้ตายยังโสด นิสัยดี และกำลังสร้างบ้าน เพิ่งไปซื้อวัสดุหมดเงินไป 4 หมื่น ญาติไม่มีใครเชื่อว่าฆ่าตัวตายเอง…
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 ส.ค. 58 พ.ต.ท.ชาคริต ศรีสำราญ พงส. ผนพ.สภ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับ พ.ต.ต.สุเทน ดวงพิมพิ์ พงส.สภ.ขุขันธ์ และชุดสืบสวน ไปเปิดบ้าน ตรวจที่เกิดเหตุหาหลักฐานเพิ่มเติม จากเหตุคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 67 ม.3 บ้านแตระ ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 08.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ต.สุเทน ดวงพิมพิ์ พงส.สภ.ขุขันธ์ รับแจ้งเหตุคนผูกคอตาย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และรีบออกไปตรวจที่เกิดเหตุร่วมกับ พ.ต.ท.ชาคริต ศรีสำราญ พงส.ผนพ.สภ.ขุขันธ์ พร้อมตำรวจชุดสืบสวนและแพทย์เวร รพ.ขุขันธ์
พบชาวบ้านกำลังมุงดูบริเวณเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านปูนถาวรชั้นเดียว ภายในห้องพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลัง น.ส.วิไลวรรณ พงษ์วัน อายุ 30 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว สภาพศพใช้สายไฟสีดำยาวประมาณ 1 เมตร ผูกคอโยงกับเหล็กดัดหน้าต่าง นั่งคอตกก้มหน้าภายในห้องดังกล่าว ห่างจากเตียงนอนประมาณ 70 เซนติเมตร ส่วนบนเตียงนอนมีข้าวของกระจัดกระจาย ผู้ตายมีรอยช้ำที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง กับที่รอบลำคอ สวมเสื้อยึดสีขาว กางยีนส์ขายาว แพทย์ยังไม่ลงความเห็น ตำรวจจึงนำศพส่ง รพ.ศรีสะเกษ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิต
นายสมชาย คำใบ อายุ 53 ปี คนหมู่บ้านเดียวกันและเป็นช่างที่มารับจ้างสร้างบ้านให้ผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนรับเหมาสร้างบ้านให้กับผู้ตายในราคา 1.5 แสนบาท ทำงานไปแล้ว 20 วัน ผู้ตายได้จ่ายค่าจ้างให้ตนมาแล้ว 7 หมื่นบาท และเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) ตนกับผู้ตายเดินทางไปซื้อวัสดุก่อสร้างที่ จ.อุบลราชธานี โดยผู้ตายได้นั่งรถกระบะไปกับตน ส่วนรถเก๋งของผู้ตายได้จอดไว้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองศรีสะเกษ ซื้อวัสดุก่อสร้างหมดเงินไป 4 หมื่นบาท จากนั้นเดินทางกลับมาถึงตัวเมืองศรีสะเกษเวลาประมาณบ่าย 4 โมง ผู้ตายได้แยกไปเอารถที่จอดไว้ และบอกว่าจะไปเยี่ยมลุงที่ป่วยอยู่ รพ.ศรีสะเกษ ส่วนตนได้นำวัสดุมากองไว้ที่บ้านของผู้ตาย พอรุ่งเช้าถึงรู้ว่าผู้ตายผู้คอเสียชีวิตแล้ว
ขณะที่นายวิจิตร สาทอน อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 บ้านเตระ หมู่ 3 กล่าวว่า เวลาประมาณ 06.30 น. ตนได้รับโทรศัพท์จากนางทองเรียน พงษ์วัน อายุ 57 ปี มารดาของผู้ตาย โดยบอกว่า ขอให้ไปดูน้องก้อย หรือ น.ส.วิไลวรรณด้วย เพราะโทรศัพท์หาหลายครั้งโทรติดแต่ไม่รับสาย ตนจึงเรียก น.ส.พยอม ศรีลาชัย อายุ 40 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ไปเป็นเพื่อน เมื่อไปถึงพบประตูปิดทั้ง 2 บาน เข้าบ้านไม่ได้ แต่ได้ยินเสียงโทรศัพท์จากในบ้าน น.ส.พยอม จึงใช้มือดึงผ้าม่านที่หน้าต่างบานเกล็ดซึ่งแตกอยู่ 1 แผ่นออก จนมองเห็น น.ส.วิไลวรรณ นั่งพับเพียบคอตกอยู่ข้างหน้าต่าง จึงได้เรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกัน
ส่วน ร.ต.ต.เฉลิมศักดิ์ อ่อนคำ อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 3 บ้านแตระ ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกันและเป็นลุงของผู้ตาย เผยว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านร้องว่า น.ส.วิไลวรรณ หรือน้องก้อย ซึ่งเป็นหลานได้ผูกคอตายอยู่ในห้องนอน ตนจึงรีบวิ่งไปดู แต่เปิดประตูบ้านไม่ได้ จึงนำชะแลงมางัดประตู เมื่อเข้าไปดูพบว่าหลานสาวนั่งคอพับ จึงรีบแก้สายไฟที่คอออก แต่หลานเสียชีวิตไปแล้ว
ร.ต.ต.เฉลิมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า พ่อแม่ของผู้ตายไปเลี้ยงหลานอยู่ที่กรุงเทพฯ ปล่อยให้ผู้ตายอยู่บ้านคนเดียว และขณะนี้ผู้ตายกำลังปลูกบ้านอีกหลังซึ่งอยู่ติดกัน แต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการก่อสร้าง ทั้งออกค่าใช้จ่ายและควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งผู้ตายเป็นคนสวยและเป็นคนนิสัยดี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ครู คศ.1 โรงเรียนภูสิงห์ประชาเสริมวิทย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ เขต 28 เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนครูและญาติพี่น้อง ยังไม่แต่งงาน ไม่มีแฟน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุ ฝนตกจึงไม่ทราบว่า หลานสาวกลับเข้าบ้านเวลาไหน มาทราบก็ตอนงัดประตูเข้าไปพบว่าหลานสาวเสียชีวิตแล้ว จึงฝากให้ตำรวจ สภ.ขุขันธ์ ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะตนและญาติๆ ไม่เชื่อว่าหลานสาวจะผูกคอตายเอง เพราะดูจากสภาพศพที่นั่งพับเพียบ หน้าต่างก็ไม่สูงมากนัก
จนท.ตร.เข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ ครูสาวยังโสด ผูกคอเสียชีวิตในบ้าน อย่างปริศนา
ด้าน พ.ต.ท.ชาคริต ศรีสำราญ พงส. กล่าวว่า ผู้ตายใช้สายไฟผูกคอ เสียชีวิตในห้องนอนตัวเอง ตามที่ได้สอบถามญาติในเบื้องต้น ทราบว่าผู้ตายเป็นคนนิสัยดี ยังโสด ไม่เคยมีเรื่องกับใครทั้งในหมู่บ้านและที่ทำงาน ไม่มีเรื่องที่จะทำให้กลุ้มใจ หรือเครียดจนถึงกับฆ่าตัวตาย ญาติทุกคนติดใจสงสัยการเสียชีวิตในครั้งนี้ จึงได้ส่งศพไปที่ รพ.ศรีสะเกษ เพื่อชันสูตร แต่แพทย์ไม่พร้อม จึงจะส่งศพไปผ่าที่ รพ.ตำรวจ เพื่อหารายละเอียดและสาเหตุของการเสียชีวิตต่อไป.
ด้าน พ.ต.ท.ชาคริต ศรีสำราญ พงส. กล่าวว่า ผู้ตายใช้สายไฟผูกคอ เสียชีวิตในห้องนอนตัวเอง ตามที่ได้สอบถามญาติในเบื้องต้น ทราบว่าผู้ตายเป็นคนนิสัยดี ยังโสด ไม่เคยมีเรื่องกับใครทั้งในหมู่บ้านและที่ทำงาน ไม่มีเรื่องที่จะทำให้กลุ้มใจ หรือเครียดจนถึงกับฆ่าตัวตาย ญาติทุกคนติดใจสงสัยการเสียชีวิตในครั้งนี้ จึงได้ส่งศพไปที่ รพ.ศรีสะเกษ เพื่อชันสูตร แต่แพทย์ไม่พร้อม จึงจะส่งศพไปผ่าที่ รพ.ตำรวจ เพื่อหารายละเอียดและสาเหตุของการเสียชีวิตต่อไป.
EmoticonEmoticon
Note: Only a member of this blog may post a comment.